วันเสาร์ที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2552








ประโยชน์ของผลไม้


"ผลไม้" ถือเป็นอาหารที่วิเศษอย่างหนึ่ง ขนาดที่สถาบันโภชนาการแห่งชาติ ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ออกมาแนะนำให้กินผัก-ผลไม้ รวมกันในปริมาณวันละครึ่งกิโลกรัม ด้วยเหตุผลที่ว่า "ผัก-ผลไม้" เป็นแหล่งพลังงานที่ช่วย ทำให้สุขภาพแข็งแรง และปราศจากโรคภัยไข้เจ็บนั่นเอง

** ทำความรู้จักผลไม้ ผลไม้เป็นแหล่งของคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน ประกอบไปด้วยสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายหลายอย่าง ได้แก่ แป้งและน้ำตาลที่ให้พลังงาน วิตามิน แร่ธาตุ ที่ช่วยในกระบวนการปฏิกิริยา เคมีของร่างกาย (Metabolism) ใยอาหารช่วย การขับถ่าย ช่วยลดคอเลสเตอรอล และมีสารป้องกันมะเร็ง ผลไม้โดยส่วนมากมีปริมาณไขมันต่ำ บาง ชนิดมีโปรตีนเป็นส่วนประกอบบ้าง แต่ไม่มาก นัก การกินผลไม้จึงได้คุณค่าสารอาหาร อาทิเช่น การกินมะม่วงดิบ 200 กรัม จะให้พลังงาน 62 กิโลแคลอรี + ใยอาหาร 6 กรัม + โปแตสเซียม + ฟอสฟอรัส + แคลเซียม + วิตามิน C + โปรตีน และไขมันน้อยมาก และแร่ธาตุอื่นๆ


** ประโยชน์ของผลไม้ วิตามินในผลไม้ ถือเป็นตัวช่วยในกระบวน การเปลี่ยนน้ำตาลให้เป็นพลังงาน หากเราขาด วิตามิน ร่างกายจะขาดพลังงานไปด้วยเช่นกัน ทั้งๆ ที่มีน้ำตาลในเซลล์ การขาดวิตามิน ทำให้ร่างกายเกิดอาการเช่นเดียวกับ "ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ" เป็นผลให้ร่างกายเรียกร้องให้กินอาหารเพิ่มขึ้น ทั้งๆ ที่สารอาหารในเซลล์ยังใช้ไม่หมด นอกจากนี้ ในผลไม้ยังมีน้ำตาล ได้แก่น้ำตาลกลูโคส ฟรุกโตส และซูโครส ซึ่งให้ปริมาณพลังงานเช่นเดียวกับน้ำตาลทราย หรือ น้ำตาลแปรรูป (Simple Carbohydrate) โดย 1 กรัมให้พลังงาน 4 กิโลแคลอรี แม้ว่า ผลไม้จะมีรสหวาน แต่ผลไม้มีน้ำอยู่มาก (60-96%) ทำให้น้ำตาลที่มีอยู่เจือจางลงน้ำตาลในผลไม้เป็นคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน การย่อยสลายให้เป็นกลูโคส จึงต้องใช้เวลานาน อีกทั้งเส้นใยอาหารยังช่วยชะลอการ ดูดซึมของน้ำตาล ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดมีความสม่ำเสมอ และเกิดพลังงานได้อย่างต่อเนื่อง
สับประรด


สับประรดเป็นพืชล้มลุก อายุหลายปี สูง 90-100 ซม. มีลำต้นใต้ดิน ใบเดี่ยวเรียงสลับซ้อนกันถี่มาก รอบต้นกว้าง 6.5 ซม. ยาวได้ถึง 1 เมตร ไม่มีก้านใบ ดอกออกเป็นช่อขนาดใหญ่ ออกจากกลางต้น มีดอกย่อยจำนวนมาก ผลเป็นผลรวม รูปทรงกระบอก มีตารอบผล มีใบเป็นกระจุกที่ปลายผล


ประโยชน์ต่อสุขภาพรักษาแผลเป็นหนองได้ โดยนำผลสดๆมาคั้นเอาแต่น้ำ ชโลมแผล เอนไซม์จะช่วยย่อยกัดเนื้อเยื่อ และหนองให้หลุด ยังใช้แก้ท้องผูกได้อีกด้วย โดยนำผลสดมาคั้นเอาน้ำ 1 แก้ว อาจผสมกับน้ำสุก 1 แก้ว เติมเกลือเล็กน้อย ดื่มตอนท้องว่าง หรืออาจจะใช้เหง้าสดๆ ประมาณ 200 กรัม หรือแห้ง 100 กรัม ต้มน้ำ 2 แก้ว ดื่มวันละ 3 ครั้งก่อนอาหาร ครั้งละ 1 ถ้วยชา นอกจากนี้สับประรดยังสามารถแก้ปัสสาวะไม่ออก และช่วยย่อยอาหารได้ดีอีกด้วย

ส้มโอ
ส้มโอมีประโยซน์ตั้งแต่เปลีอกใช้เชื่อมเป็นขนมหวาน เช่นหวัดเพชรบุรี ทำเปลือกส้มโอเชื่อมจนเป็นสินค้าพื้นเมือง ไปขายไกลๆ ส่วนเนื้อที่เปรี้ยวใช้ประกอบกับข้าวยำทางภาคใต้ เนื้อหวานอมเปรี้ยวใช้ทำส้มโอลอยแก้ว ส่วนเนื้อหวานใช้ รับประทานเป็นผลไม้สด


เงาะ
เปลือกผลเงาะนำมาต้มกินน้ำ เป็นยาแก้อักเสบ มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย รักษาอาการอักเสบในช่องปาก และโรคบิดท้องร่วง มีข้อควรระวังอย่าหนึ่งคือเม็ดในของเงาะ มีพิษ แม้ว่าจะเอาไปคั่วจนสุกแล้ว แต่ถ้ากินมากเกินไปจะมีอาการปวดท้อง เวียนศรีษะมีไข้ คลื่นไส้ อาเจียน ดังนั้นเม็ดเราไม่ควรจะรับประทาน
ส้ม


ส้มเขียวหวานที่นิยมปลูกในประเทศไทย ส่วนใหญ่เป็นพันธุ์บางมด ผลกลมแป้นเล็กน้อย ก้นผลเรียบถึงเว้าเล็กน้อย ผิวมีสีเขียวอมเหลือง ผิวเรียบสม่ำเสมอ เปลือกบางล่อน ปอกง่าย กลีบแยกออกจากกันง่าย มีประมาณ 11 กลีบ ฝนังกลีบบางมีรกน้อย ฉ่ำน้ำ เนื้อผลสีส้ม รสหวานอมเปรี้ยวเล็กน้อย

ประโยชน์ต่อสุขภาพแหล่งวิตามิน เกลือแร่ และเส้นใยธรรมชาติ การรับประทานส้มโดยไม่คายกากจะช่วยคุมน้ำหนักได้อีกวิธีหนึ่ง เพราะจะทำให้รู้สึกอิ่มท้องเร็ว เป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักได้อย่างดีทีเดียว นอกจากนี้ หากรู้สึกหิวก่อนเวลา แทนที่จะนึกถึงเค็กก้อนโต หรือโดนัทชิ้นใหญ่ ให้ลองหยิบส้มสักลูกเข้าปากแทนจะได้ประโยชน์มากกว่าในราคาที่ถูกกว่า ผิวส้มมีน้ำมันหอมระเหย วิตามินซี และสารอื่นๆ ใช้เป็นยา ผิวผลใช้สกัดทำทิงเจอร์สำหรับแต่งกลิ่นยา และมีฤทธิ์ขับลม เปลือกส้ม ปรุงเป็นยาหอมแก้ลมวิงเวียน หน้ามืด ตาลาย แก้ลมจุกเสียด แน่นเฟ้อ น้ำจากผล ให้วิตามินซี รับประทานป้องกัน และรักษาโรคเลือดออกตามไรฟัน บำรุงร่างกาย แก้ไอ และขับเสมหะ


มะละกอ
มะละกอเป็นไม้ผลล้มลุกขนาดกลาง ความสูงระหว่าง 5-20 ฟุต ลำต้นอวบน้ำ มะละกอเป็นพืชปลูกง่ายโตเร็ว ให้ผลเร็ว ใฟ้ผลตลอดปี โดยทั่วไปมะละกอเป็นพืชที่ไม่ค่อยมีแมลงรบกวน และปลูกได้ดี่ในดินทั่วไป แต่ต้องเป็นดินที่มีการระบายน้ำได้ดี น้ำไม่ขังแฉะ และมีอินทรีย์วัตถุมากพอสมควร
ประโยชน์ต่อสุขภาพเป็นไม้ผลที่คนทั่วไปนิยมรับประทาน ผลดิบนำมาปรุงอาหาร และผลสุกรับประทานสด น้ำมีรสหวานหอม มีวิตามินเอ และแคลเซี่ยมสูง มะละกอผลดิบมียาง มีสารเพคติน แคลเซี่ยม วิตามินซี และอื่นๆ ผลสุก มีวิตามินเอสูง วิตามินซี สารเพคติน เหล็ก แคลเซี่ยม และมีสาร Cerotenoid เป็นสารที่ทำให้เนื้อมะละกอสุกมีสีส้ม ต้นมะละกอ ใช้เป็นยาขับประจำเดือน ลดไข้ ดอก ขับปัสสาวะ ราก แก้กลากเกลื้อน ยาง ช่วยกัดแผล รักษาตาปลา หูด ฆ่าพยายธิ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น