วันพฤหัสบดีที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2552


"ฟูจิซัง" สัญลักษณ์ที่สื่อถึงประเทศญี่ปุ่น
สัญลักษณ์ที่มักใช้สื่อถึงประเทศญี่ปุ่นนอกจากดอกซากุระอันอ่อนหวานแล้ว ภาพของภูเขาสูงรูปทรงสวยงามมีหิมะปกคลุมอยู่บนยอดเขา ก็เป็นอีกภาพหนึ่งที่สื่อถึงดินแดนอาทิตย์อุทัยได้เป็นอย่างดี นั่นก็คือภาพของ "ฟูจิซัง" (Fujisan) หรือ "ภูเขาไฟฟูจิ" ภูเขาที่สูงเป็นอันดับหนึ่งในประเทศญี่ปุ่น คือมีความสูง 3,776 เมตร (สูงกว่าดอยอินทนนท์ซึ่งเป็นภูเขาที่สูงที่สุดในบ้านเรา 1,211 เมตรด้วยกัน) ภูเขาไฟฟูจิตั้งอยู่ระหว่างจังหวัดยามานาชิและจังหวัดชิซึโอกะ หรือทางตะวันตกของโตเกียว เมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งหากวันไหนท้องฟ้าปลอดโปร่งไร้เมฆหมอก เราก็จะสามารถมองเห็นฟูจิซังได้จากโตเกียวเลยทีเดียว อีกทั้งรอบๆภูเขาไฟยังมีทัศนียภาพอันงดงาม โดยบริเวณลาดเขาทางด้านเหนือจะมีทะเลสาบอยู่ 5 แห่ง ด้วยกัน (Fuji Five Lake) ได้แก่ ทะเลสาบคาวางุจิโกะ ยามานากาโกะ โมโตสุโกะ โชจิโกะ และไซโกะ





งดงามทุกฤดูกาล
ภายนอกแม้จะดูสงบนิ่ง แต่ภูเขาไฟฟูจิก็ยังไม่ดับสนิทเต็มที่ และถูกจัดให้อยู่ในลักษณะของภูเขาไฟที่มีโอกาสปะทุต่ำ โดยการระเบิดครั้งล่าสุดนั้นเกิดเมื่อ พ.ศ.2250 หรือเมื่อ 300 กว่าปีที่แล้ว แม้ภาพที่คุ้นตาของภูเขาไฟฟูจิจะเป็นภาพภูเขาที่มีหิมะปกคลุมอยู่บนยอด แต่ก็ใช่ว่าจะมีหิมะปกคลุมอยู่อย่างนั้นตลอดปี เพราะในช่วงเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม ซึ่งเป็นช่วงฤดูร้อนของประเทศญี่ปุ่นนั้น หิมะบนยอดเขาก็จะละลาย สภาพอากาศไม่รุนแรง อีกทั้งช่วงนี้ยังเป็น "ฤดูกาลปีนภูเขาไฟฟูจิ" ที่นักท่องเที่ยวจะสามารถขึ้นไปเยี่ยมเยือนภูเขาไฟฟูจิกันได้ถึงยอดเขาริมปากปล่องภูเขาไฟกันเลยทีเดียว แต่หากเป็นช่วงฤดูอื่นก็จะเที่ยวได้เพียงบางชั้น หรือต้องมีการขออนุญาตปีนขึ้นภูเขากันเป็นกรณีไป




นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกต่างเดินทางมาพิชิตภูเขาไฟฟูจิ
ชาวญี่ปุ่นถือว่า ครั้งหนึ่งในชีวิตจะต้องพยายามหาโอกาสปีนไปให้ถึงยอดภูเขาไฟฟูจิ หรือขึ้นไปชมพระอาทิตย์ขึ้นบนภูเขาไฟฟูจิให้ได้ ซึ่งก็ไม่เพียงแค่ชาวญี่ปุ่นเท่านั้น แต่ยังมีนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกที่ชื่นชอบการปีนเขารวมแล้วกว่า 200,000 คน มาปีนภูเขาไฟฟูจิกันในแต่ละปี ฟังมาถึงตรงนี้ชักเริ่มอยากไปลองสัมผัสกับการปีนภูเขาไฟฟูจิกันแล้วใช่ไหม? ถ้าอย่างนั้นต้องไปเตรียมร่างกายกันไว้ให้พร้อมก่อน เพราะการเดินขึ้นให้ถึงยอดฟูจินั้นใช้เวลา 5-8 ชั่วโมงด้วยกัน คนที่ไม่คุ้นชินกับการป่ายปีนเขาก็ควรออกกำลังฟิตร่างกายเอาไว้ก่อนเดินทาง อีกทั้งบนยอดเขานั้นมีออกซิเจนเบาบาง ซึ่งจะทำให้เหนื่อยง่ายกว่าปกติมาก จึงควรตรวจเช็คสภาพร่างกายของตัวเองให้ดี ส่วนเรื่องเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายก็สำคัญ ควรเตรียมรองเท้าที่ใส่สบายและเหมาะกับการปีนเขา สภาพดีไม่ปากอ้าขณะเดินทาง ส่วนเสื้อผ้านั้นก็ควรเป็นแบบน้ำหนักเบา แต่ต้องเตรียมเสื้อกันหนาวและกันลมไว้ใส่ด้วย เพราะแม้จะเป็นฤดูร้อน แต่อากาศบนยอดเขานั้นหนาวเหน็บและลมแรงมากอีกด้วย


ปากปล่องภูเขาไฟขนาดใหญ่
และหากอยากจะขึ้นไปชมพระอาทิตย์ขึ้นบนยอดเขา ก็ต้องเตรียมไฟฉายคาดหัวไว้ขณะปีนเขาตอนกลางคืนด้วย นอกจากนั้นแล้วก็เสบียงอาหารแล้วแต่จะอยากเอาอะไรไป แต่ก็อย่าให้หนักจนอยากจะเหวี่ยงเป้หลังทิ้งกลางทางก็แล้วกัน แต่จริงๆแล้วตามจุดแวะพักตามเส้นทางปีนเขาก็จะมีร้านอาหารให้บริการ แต่ราคาก็จะสูงขึ้นตามระดับน้ำทะเลที่เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน เอาล่ะ...คราวนี้ถ้าพร้อมแล้ว ไปลุยกันเลยดีกว่า! ภูเขาไฟฟูจิมีทั้งหมด 10 ชั้นด้วยกัน โชคดีที่ไม่ต้องเริ่มต้นปีนกันตั้งแต่ตีนเขา เพราะรถสามารถขึ้นมาบนภูเขาไฟฟูจิได้จนถึงชั้นที่ 5 เท่ากับว่าเหลือระยะทางที่ต้องเดินอีกประมาณไม่เกิน 1,500 เมตร แต่ด้วยทางเดินที่ซิกแซกไปตามไหล่เขาเพื่อลดความลาดชัน ก็ทำให้ระยะทางจริงที่ต้องเดินนั้นมากกว่า 1,500 เมตรอยู่ไกลโข

แสงแรกแห่งวันบนภูเขาไฟฟูจิ
ที่ชั้น 5 นี้ มีทั้งร้านอาหาร ร้านขายของฝากของที่ระลึก ซึ่งก็มีทั้งขนมที่ทำเป็นรูปภูเขาไฟฟูจิ รวมไปถึงอากาศจากยอดเขาฟูจิอัดกระป๋องขายก็ยังมี สำหรับคนที่มาเที่ยวเฉยๆไม่ได้ตั้งใจปีนให้ถึงยอดก็จะมาเที่ยวกันที่ชั้นนี้และซื้อของฝากกลับไป แต่สำหรับคนที่จะเดินกันต่อไปถึงยอดเขาก็มักจะซื้อไม้ค้ำ ซึ่งเป็นอุปกรณ์ช่วยในการป่ายปีนหรือเอาไว้ค้ำยันยามหมดเรี่ยวหมดแรง อีกทั้งยังสามารถเป็นของที่ระลึกสำหรับตัวเองได้เป็นอย่างดี เพราะตามจุดแวะพักของแต่ละชั้นนั้นจะมีการประทับตราบนไม้ค้ำเป็นที่ระลึกให้ด้วย ส่วนมากแล้วหลายคนมักจะเริ่มต้นปีนเขากันในช่วงเย็นๆหรือค่ำๆ เพื่อจะได้ไปถึงยอดเขาในช่วงเช้ามืดเพื่อชมพระอาทิตย์ขึ้นได้พอดี ทางเดินในช่วงแรกๆ นั้นจะยังพอมีสีเขียวๆของต้นไม้ใบหญ้าให้เห็นกันบ้าง แต่เมื่อเดินสูงขึ้นๆ พื้นดินจะกลายเป็นหินกรวดภูเขาไฟที่ทำให้เหนื่อยแรงเวลาเดินพอสมควร สภาพอากาศก็จะเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ บางช่วงจะมีฝนโปรยลงมา บางช่วงต้องเดินผ่านกลุ่มเมฆหมอกชื้นๆ ส่วนอุณหภูมิก็จะลดลงเรื่อยๆ ตามระดับความสูงที่เพิ่มขึ้น และที่แน่ๆคือเรี่ยวแรงก็จะเริ่มน้อยลงๆด้วยเช่นกัน แต่หากหยุดพักแล้วมองไปรอบๆ ตัวก็จะมองเห็นทิวทัศน์อันสวยงามแบบเหนือเมฆจากบนภูเขาไฟฟูจิที่อาจทำให้หายเหนื่อยได้




ภูเขาที่สูงที่สุดในประเทศญี่ปุ่น
บนภูเขาไฟฟูจินี้เราก็จะได้เห็นเสาโทริ หรือประตูทางเข้าของวัดหรือศาลเจ้าในศาสนาชินโต ซึ่งก็เปรียบเหมือนประตูสวรรค์ เหตุที่มีเสาโทริอยู่บนภูเขาไฟนั้นก็เพราะบนยอดภูเขาไฟฟูจินั้นมีวัดตั้งอยู่นั่นเอง บริเวณจุดแวะพักที่ชั้น 7-9 นั้นจะมีที่พักตามจุดแวะพัก ซึ่งก็ถือว่าน่าสนใจไม่น้อย เพราะบางแห่งนั้นเรียกได้ว่าเป็นที่ซุกหัวนอนจริงๆ เพราะหน้าตาของที่นอนซึ่งทำเป็นสองชั้น มีหมอนหนุนใบไม่ใหญ่นักวางเรียงชิดกัน ซึ่งขนาดความกว้างของหมอนนั้นก็คือขนาดของพื้นที่ที่แต่ละคนจะได้ใช้นอนกันนั่นเอง แถมผ้าห่มก็ต้องห่มด้วยกันอีกต่างหาก แต่นักท่องเที่ยวก็ไม่มีใครบ่น เพราะขอแค่ได้นอนพักซัก 2-3 ชั่วโมงให้มีเรี่ยวแรงคืนมาก็พอแล้ว แถมที่นี่ยังมีบริการปลุกในตอนเช้ามืดเพื่อให้ไปชมพระอาทิตย์ขึ้นกันอีกด้วย พอได้เวลาประมาณ 4 นาฬิกา ก็ได้เวลาที่ทุกคนรอคอย พระอาทิตย์พระเอกของงานก็เริ่มจะส่งแสงแรกแห่งวันสาดส่องออกมา นักท่องเที่ยวจำนวนมากที่ปีนขึ้นไปจนถึงยอดแล้วก็จะปักหลักนั่งชมหรือถ่ายรูปกันไปเรื่อยๆ ส่วนคนที่กำลังปีนป่ายก็จะหยุดยืนชมพระอาทิตย์ขึ้นกันเหมือนมีมนต์สะกด และเมื่อพระอาทิตย์อวดโฉมออกมาให้เห็น ก็จะได้รับเสียงปรบมือต้อนรับจากนักท่องเที่ยวอย่างอบอุ่น


เสาโทริบนภูเขาไฟฟูจิ
พอพระอาทิตย์ขึ้นแล้วความเหน็บหนาวก็เริ่มจางหาย พร้อมกับที่เราสามารถเดินชมสิ่งต่างๆบนยอดเขาได้ ไม่ว่าจะเป็นวัดบนยอดเขา ที่สามารถเข้าไปขอพรหรือเสี่ยงเซียมซีกันได้ หรือจะชมปากปล่องภูเขาไฟที่มีขนาดมโหฬารและลึกนับร้อยเมตร มองเห็นชั้นหินของภูเขาไฟได้ หากใครอยากเดินชมให้รอบปากปล่องก็จะใช้เวลาเป็นชั่วโมงเลยทีเดียว นอกจากนั้นแล้วด้านบนนี้ก็ยังมีสถานีตรวจวัดสภาพอากาศอยู่ด้วยเช่นกัน แม้จะเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าสักเพียงใด แต่ความภาคภูมิใจของการได้พิชิตภูเขาที่สูงที่สุดในประเทศญี่ปุ่น ได้ชมแสงแรกของพระอาทิตย์ในดินแดนอาทิตย์อุทัย ก็เชื่อว่าหลายคนคงยอมเหนื่อย เพราะความประทับใจที่ได้รับจาก "ฟูจิซัง" นั้นมีมากมายเสียเหลือเกิน

วันพุธที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2552





ท่าต้นไม้ Vrksasana (Tree Pose)


วิธีฝึก
1.ยืนในท่าภูเขา เท้าทั้งสองข้างยืนบนพื้น มืออยู่ข้างลำตัว
2.งอเข่าขวา ใช้มือจับข้อเท้าขวาให้ฝ่าเท้าขวาติดด้านในของต้นขาซ้าย นิ้วเท้าขวาชี้ลงพื้น
3.ทรงตัวด้วยขาข้างซ้าย
4.การวางของมือ อาจจะพนมมือจรดบริเวณหน้าอก หรือยกมือขึ้นเหนือศีรษะหรือพนมมือแล้วยกขึ้นเหนือศีรษะ
5.หายใจเข้าออก 10 ครั้งหรือยืนนาน 1 นาทีแล้วคลายท่าไปสู่ท่าภูเขา
6.สลับเท้าทำท่านี้อีกครั้งดังรูป A
7.ส่วนผู้ที่แข็งแรงมากขึ้นคุณสามารถนำเท้าไว้บนต้นขาแทนด้านข้าง ดังรูปC
8.ส่วนผู้ที่ไม่แข็งแรงหรือเริ่มฝึกหรือการทรงตัวไม่ดีอาจจะเริ่มโดยการมีเก้าอี้ไว้จับประคองตัวดังรูป B

ประโยชน์
ยืดและทำให้กล้ามเนื้อต้นขา น่อง ข้อเท้าและสันหลังแข็งแรง
ช่วยให้การสมดุลดีขึ้น
ลดอาการปวดหลังและฝ่าเท้าแบน

ข้อห้ามในการฝึก
ปวดศีรษะ
นอนไม่หลับ
ความดันโลหิตต่ำ
ผู้ที่มีโรคกระดูกหลังหรือสะโพกต้องระวัง

ท่าตรีโกณหมุนกลับ Utthita Trikonasana (Extended Triangle Pose)
วิธีการฝึก
ยืนท่าภูเขา หายใจออกช้าๆพร้อมกับแยกเท้าออก 3-4 ฟุต ยกแขนขึ้นและกางแขนออกขนานกับไหล่ คว่ำฝ่ามือ
หมุนเท้าขวาชี้ไปทางขวาทำมุม 90 องศาจากแนวเดิม เฉียงเท้าซ้ายไปทางขวา 40-60 องศา เข่าทั้งสองตึง
ก้มตัวลงพร้อมกับบิดเอวมาทางขวา วางมือซ้ายที่ด้านนอกของตาตุ่มขวา ถ้าวางไม่ได้อาจจะวางด้านในของตาตุ่มก็ได้ อาจจะวางบล็อกช่วยหากยังวางมือไม่ถึงพื้น
เหยียดแขนขวาชี้ขึ้น แนวแขนซ้ายและแขนขวาอยู่ในแนวเดียวกัน ตามองไปทางมือขวา
หากไม่ชำนาญอาจจะมองตรงก็ได้
ค้างท่านี้ไว้ 30 วินาทีถึง 1 นาที คลายท่าโดยการยืนกลับท่าเดิม
สลับข้าง ทำซ้ำท่าเดิม

ประโยชน์
ยืดกล้ามเนื้อ สะโพก ขาและหลัง
ทำให้กล้ามเนื้อขาแข็งแรง
ลดอาการปวดหลัง
ช่วยให้ร่างกายสมดุล
ข้อห้ามฝึก
ความดันต่ำ
ท้องร่วง
ปวดศีรษะ
นอนไม่หลับ

วันเสาร์ที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

10 อันดับต้นไม้หัศจรรย์ที่สุดของโลก









อันดับ 10 - Lone Cypressต้น Lone Cypress ขึ้นต้องแรงปะทะโดยลมหนาวจากมหาสมุทรแปซิฟิกอยู่ที่ชายหาด Pebble ในมอนทาเร่ รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา แม้จะมีขนาดไม่ใหญ่โตมาก แต่มันตั้งเด่นเป็นสง่า (แบบว้าเหว่) อยู่ท่ามกลางทัศนียภาพที่สวยงามของมหาสมุทรแปซิฟิก


อันดับ 9 - CircusAxel Erlandson เกษตรกรปลูกถั่วคนหนึ่งได้ดัดแปลงและแกะสลักต้นไม้เป็นรูปร่างและลวดลายที่แสนมหัศจรรย์จริงๆ เขาได้ตั้งชื่อมันว่าต้น “Circus” นี่คือตัวอย่างเจ้าต้น Circus ที่คิดว่ากว่าจะทำได้คงลำบากน่าดู





อันดับ 8 - Giant Sequoiasต้น Giant Sequoias ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในต้นไม้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ปลูกใน เซียร์ร่า เนวาดา รัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งต้น Giant Sequoias ที่ใหญ่ที่สุดคือพันธุ์ Genaeral Sherman ตั้งตระหง่านใหญ่ยักษ์อยู่ใน Sequoia National Park มีลำต้นสูงถึง 275 ฟุต ( 83.8 เมตร) และหนัก 6,000 ตัน

อันดับ 7 - Coast Redwoodต้น Coast Redwood ถือเป็นต้นไม้ที่สูงที่สุดในโลก โดยเจ้าต้นที่ชื่อว่า Hyperion ใน Redwood National Park นั้นมีความสูงกว่า 379 ฟุต (115 เมตร) จุดเด่นของมันก็คือ ต้น Coast Redwood จะประกอบไปด้วยต้นแคลิฟอร์เนียเรดวู้ดยักษ์ถึง 4 ต้น ซึ่งมันใหญ่ขนาดที่ว่าเราสามารถขับรถผ่านได้!


อันดับ 6 - Chapel - Oak of Allouville - Bellefosseต้น Chapel - Oak of Allouvill - Bellefosse เป็นต้นไม้ที่มีชื่อเสียงที่สุดในฝรั่งเศส มันไม่ใช่เพียงแค่ต้นไม้ธรรมดา แต่เป็นสถานที่สำคัญทางศาสนาอีกด้วย ในปัจจุบันบางส่วนของโอ๊คต้นนี้ได้ร่วงเลยไปบ้างแล้วตามกาลเวลา แต่ผู้คนที่นั่นใช้เสาและสายเคเบิ้ลในการรองรับต้นไม้เก่าแก่ต้นนี้


อันดับ 5 - Pandoต้น Pando หรือ Trembling Giant ในรัฐยูท่าห์ ประกอบไปด้วยกว่า 47,000 กิ่งก้านสาขาที่แผ่ขยายไปทั่วพื้นที่ 107 เอเคอร์ หนักประมาณ 6,600 ตัน และมีระบบรากแก้วใต้ดินที่ใหญ่โตมาก เฉลี่ยแล้วแต่ละกิ่งก้านนั้นมีอายุประมาณ 130 ปี รวมทั้งระบบของต้น Pando เหล่านี้ศิริอายุร่วม 80,000 ปี


อันดับ 4 - Tuleต้น Tule เป็นต้นที่ใหญ่ที่สุดในต้นไม้ตระกูล Montezuma Cypress ตั้งอยู่ใกล้กับเมือง Oaxaca ประเทศเม็กซิโก มีขนาดลำต้นโดยรอบ 190 ฟุต ( 58 เมตร) ซึ่งมีความหนาจนผู้คนพูดว่าแทนที่คุณจะโอบกอดมัน…มันกลับโอบกอดคุณแทน



อันดับ 3 - Banyanต้น Banyan ตั้งชื่อตาม “banians” หรือผู้บุกรุกชาวฮินดูที่ทำกิจกรรมต่างๆ ภายใต้ต้นไม้นี้ และต้น Banyan เคยเป็นบ้านต้นไม้ของโรบินสัน ครูโซมาแล้วด้วย


อันดับ 2 - Bristlecone Pineต้นสน Bristlecone ถือได้ว่าเป็นต้นไม้ที่เก่าแก่มาก ซึ่งพันธุ์ Methuselah นั้นจัดเป็นต้นไม้ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ที่มีอายุ 4,838 ปี อยู่เหนือระดับน้ำทะเลถึง 11,000 ฟุต

อันดับ 1 - Baobabต้นไม้ที่มหัศจรรย์ที่สุดก็คือต้น Baobab หรือต้นขนมปังลิง! (monkey bread tree) สามารถเติบโตได้ถึง 100 ฟุตและกว้าง 35 ฟุต สิ่งแปลกประหลาดของต้นไม้นี้ก็คือ ภายใต้ลำต้นที่บวมนี้คือ ที่เก็บน้ำที่จุได้มากถึง 120,000 ลิตร ไว้ใช้ในสภาวะอากาศแห้งแล้ง

วันจันทร์ที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2552
















อันตราย..ภัยใกล้ตัวผู้หญิง
ภัยโรคจิต ภารกิจ : ลวนลามผ่านกรรมวิธีทางคำพูด กิริยาหรือแม้กระทั่งสายตากลุ่มเป้าหมาย : ดักแซวผู้หญิงทุกวัย โดยเฉพาะวัยรุ่น ไม่เว้นแม้แต่ตุ๊ด กระเทย ทอม ดี้ วิธีรับมือ : พิจารณาพฤติกรรมก่อนว่าจัดอยู่โรคจิตประเภทใด ถ้าเป็นโรคจิต (คนบ้า) อย่าต่อปากต่อคำให้แจ้งตำรวจทันที แต่ถ้าเป็นโรคจิตประเภทจิตเสื่อม หรือจิตต่ำทราม ให้ร้องกรี๊ดเสียงดังๆขอความช่วยเหลือจากคนรอบข้าง จากนั้นแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ (หลังรุมสกรัมกันเองแล้ว)
ภัยเครื่องดื่ม (แอลกอฮอล์)ภารกิจ : ส่วนใหญ่แอบผสมสารออกฤทธิ์ประเภทเดียวกับยานอนหลับในเครื่องดื่มกลุ่มเป้าหมาย : วัยรุ่นผู้หญิงชอบเที่ยวกลางคืน แต่งตัววูบวาบ เซ็กซี่ดูมีฐานะวิธีรับมือ : แต่งตัวให้มิดชิด ไม่เที่ยวคนเดียวหรือรับดริ๊งค์จากคนแปลกหน้าหมายเหตุ : เครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์ทำให้ประสิทธิภาพในการขับรถลดลง แต่สำหรับผู้หญิงนับเป็นปัจจัยเสี่ยงให้มีการเสียตัวสูง ผู้หญิงกว่าครึ่งผับเลือกผสมแอลกอฮอล์ในเครื่องดื่มเพื่อเพิ่มความสนุกสนาน นอกเหนือจากเสียงเพลงและสิ่งบันเทิงใจอื่นๆ อาทิ ผู้ชายหน้าตาดี (ที่ยังไม่รู้จักนิสัย) เสื้อผ้าชุดใหม่ที่ใส่แล้วสุดวาบหวิว (จริงๆแล้วคนหน้าตาดีใส่อะไรก็สวยทั้งนั้น) และค็อกเทลสูตรใหม่ (ที่ไม่รู้ว่าใครผสมสารอะไรให้ดื่มหรือเปล่า)
ภัยหมอดูหลอกลวง ภารกิจ : พูดจาหว่านล้อม ทำทีทำนายทักดวงชะตาในแง่ลบ ขอดูลายมือหรือพยายามแตะเนื้อต้องตัว และใช้ยาชาหรือยาสลบและเรียกทรัพย์ในรูปแบบสะเดาะเคราะห์ โดยคุณไม่ได้สติกลุ่มเป้าหมาย : ผู้หญิงบุคคลทั่วไปที่หน้าตาไม่ค่อยฉลาด จิตอ่อน งมงายเกินเหตุ งก อยากรวยทางลัด ระแวงกลัวสามีหรือแฟนจะนอกใจ จึงต้องพึ่งไสยศาสตร์วิธีรับมือ : งดเดินทางคนเดียวและใส่เครื่องประดับเกินความจำเป็น ดูดวงได้แต่ต้องดูอย่างมีสติ ไม่หลงงมงาย (ถ้าไม่อยากหมดตัว)
ภัยสังคม ภารกิจ : ก่อเหตุในจุดที่ลับตาคน พูดจากล่อมจนเหยื่อไว้ใจกลุ่มเป้าหมาย : ผู้หญิงที่ชอบไปไหนมาไหนคนเดียว และใส่เครื่องประดับประดาวิธีรับมือ : อย่าหลงเชื่อคำพูดหรือไว้ใจคนแปลกหน้า, ไม่ควรไปไหนตามลำพัง
ภัยห้องลองเสื้อ ภารกิจ : จัดห้องลองแบบใช้ผ้ากั้น ,ติดกล้องวงจรปิด, ติดตั้งกระจกไว้ในลักษณะเอียงตามมุมต่างๆ (ซึ่งสามารถสะท้อนให้คนภายนอกมองผ่านได้)กลุ่มเป้าหมาย : ผู้หญิงวัยรุ่นที่นิยมซื้อเสื้อผ้าตามร้านริมทางหรือในที่สาธารณะ และใช้บริการห้องลองแบบผ้ากั้นวิธีรับมือ : ช่วยกันตะโกนร้องประจานเจ้าของร้านทันทีที่พบเหตุการณ์แบบนี้ (ให้อายจนขายของไม่ได้เลย) แจ้งตำรวจจับทันที และระมัดระวังตัวทุกครั้งเวลาลองเสื้อผ้า
ภัยรถแท็กซี่ ภารกิจ : ป้ายยาไว้ที่ฝ่ามือ แล้วแกล้งเอื้อมมือกดปุ่มมิเตอร์ จากนั้นพยายามอังมือไว้ที่ช่องแอร์ โดยหันแอร์ไปทางผู้โดยสารและปิดกระจกรถกลุ่มเป้าหมาย : กลุ่มผู้หญิงวัยรุ่นที่นุ่งกระโปรงสั้น สวมเสื้อผ้าไม่มิดชิด ใส่เครื่องประดับล่อแหลมวิธีรับมือ : ถ้าตกอยู่ในสถานการณ์นี้ให้รีบเปิดกระจกสูดอากาศภายนอก และลงจากรถทันที จดทะเบียนรถ แจ้งตำรวจ
ภัยอาวุธป้องกันตัว ภารกิจ : ใช้อุปกรณ์ป้องกันตัว อาทิ คัตเตอร์, เครื่องช็อตไฟฟ้า, สเปรย์พริกไทย, กระบอกไฟฟ้า, ปืนปากกา ของเหยือ กลับมาทำร้ายเหยื่อกลุ่มเป้าหมาย : วัยรุ่นหญิงที่ชอบพกอุปกรณ์เหล่านี้ติดกระเป๋าวิธีรับมือ : อุปกรณ์เหล่านี้เปรียบเสมือนดาบสองคม ก่อนใช้ควรศึกษารายละเอียดและวิธีใช้ และควรพิจารณาว่าเครื่องมือเหล่านี้สามารถรับมือกับคนร้ายได้หรือเปล่า ถ้าคิดว่าไม่รอด ไม่ต้องควักออกมา จะเป็นภัยตัวเองเปล่าๆ

วันจันทร์ที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2552





การดูแลสุขภาพดวงตา
ผื่นที่เปลือกตาผื่นที่เปลือกตา มีสาเหตุได้จากอะไรได้บ้าง เป็นสิ่งที่ต้องถาม
ต้อกระจก (Cataract)ต้อกระจก เป็นภาวะที่พบบ่อยมากในผู้ป่วยสูงอายุเกิดจากการเสื่อมสภาพไปตามวัย ทำให้เลนส์แก้วตาที่ทำหน้าที่โฟกัสภาพ ซึ่งตามปกติจะเหมือนกระจกใสกลายเป็นกระจกฝ้า เป็นผลให้เกิดอาการตาพร่ามัวขึ้น ซึ่งไม่สามารถแก้ไขด้วยแว่นหรือคอนแทคเลนส์ได้ ต้องผ่าตัดเท่านั้น
ต้อหิน (GLAUCOMA)ชื่อที่ใช้เรียกต้อหินนั้นเป็นชื่อที่ทำให้คนฟังเข้าใจผิดกันไม่ใช่น้อย เนื่องจากทำให้หลายๆคนพากันคิดว่ามีก้อนที่เหมือนหินอยู่ในตา และเมื่อเป็นแล้วก็จำเป็นที่จะต้องรักษาโดยการผ่าตัดเอาต้อหินอออก แท้ที่จริงแล้วกลับตรงกันข้าม เพราะไม่มีก้อนอะไรทั้งสิ้นเพียงแต่...
วิธีการถนอมดวงตาน่าสนใจดีโดยเฉพาะผู้ที่ต้องทำงานหน้าคอมพิวเตอร์ทุกวันหรือ ใช้ปาล์มบ่อยๆ วิธีนี้คิดค้นขึ้นโดยจักษุแพทย์ชาวอเมริกันชื่อว่านายแพทย์ วิลเลียม เอช. เบตส์ (ค.ศ. 1860-1931)
อาหารเพื่อสุขภาพตาดวงตา เป็นอวัยวะที่มีความละเอียดอ่อน ซับซ้อน และยังเป็นอวัยวะที่ต้องปะทะกับแสงแดดทุกวัน เป็นสาเหตุของต้อกระจกและจอประสาทตาเสื่อม ซึ่งนำไปสู่สาเหตุการตาบอดในผู้สูงอายุ
โรคศูนย์กลางจอประสาทตาเสื่อมเนื่องจากอายุตา เป็นอวัยวะที่สำคัญมากต่อของคนเราเพราะว่าหากตาทำงานผิดปกติไปหรือสูญเสียการมองเห็นไปแล้วนั้น เราย่อมไม่สามารถดำเนินชีวิตประจำวัน ได้ตามปกติ ตัวอย่างเช่น การเดินทาง การขับรถ อ่านหนังสือ ดูโทรทัศน์ หรือภาพยนตร์ เป็นต้น หรือแม้กระทั่งการช่วยเหลือตัวเองในการทำธุระส่วนตัว หรือจนอาจเป็นภาระต่อผู้อื่น และหากเกิดขึ้นในผู้สูงอายุด้วยแล้วยิ่งทำให้เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้ง่ายขึ้น
วิตามินสำหรับคนสายตาสั้นวิตามินสำหรับคนสายตาสั้น มีข่าวดีสำหรับคนสายตาสั้นค่ะ อย่าเพิ่งท้อนะคะ ว่า เมื่อสายตาสั้นแล้วต้องสั้นขึ้นเรื่อยๆ เพราะหาก ได้รับการบำรุงที่ดีก็จะช่วยชะลอการเสื่อมของเซลส์ ประสาทได้ค่ะ
การบริหารดวงตาวิธีการฝึกสายตาอย่างธรรมชาติ เพื่อพักผ่อนกล้ามเนื้อตาและช่วยรักษาสายตาให้ดีขึ้น นายแพทย์เบตส์เขียนหนังสือชื่อ Perfect Sight without Glasses เป็นที่นิยมแพร่หลาย แม้ภายหลังเขาเสียชีวิต แต่วิธีการของนายแพทย์เบตส์ยังได้รับการเผยแพร่โดยแพทย์ทั้งหลายทั่วยุโรปและอเมริกา "วิธีของเบตส์" มี 7 ท่าด้วยกัน