วันอาทิตย์ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

 ผัก ผลไม้ แอปเปิ้ล ส้ม ฝรั่ง อาหาร

สุดยอด!!! ผักผลไม้เพื่อสุขภาพ

เพื่อสุขภาพพลานามัยที่ดีของคุณสาวๆ ขอแนะนำผักผลไม้ 7 ชนิด สำหรับคุณผู้หญิงที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีสารที่เป็นประโยชน์แก่หญิงทุกวัย ทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งงดงาม และยังช่วยชะลอความชราได้อีกด้วย ดังนี้

ลูกพรุน (Prunes)
ลูกพรุน เป็นแหล่งที่ดีของโปแตสเซียม เหล็กและไฟเบอร์ ที่สำคัญพรุนช่วยทำให้ผิวพรรณมีเลือดฝาด พรุนเป็นแหล่งธาตุเหล็กที่ดี พรุนแห้งหนึ่งขีดมีธาตุเหล็ก 2.78มิลลิกรัมและมีวิตามิน ซี ซึ่งช่วยในการดูดซึมธาตุต่าง ๆ เข้าสู่ร่างกาย ดังนั้นหากคุณผู้หญิงอยากมีร่างกายแข็งแรง สมบูรณ์ริมฝีปากแดงสดเหมือนสตรอเบอรี่ แก้มแดงใสเหมือนลูกเชอรี่โดยไม่ต้องใช้เครื่องสำอาง ดูเป็นคนที่มีสุขภาพดีสมบูรณ์ด้วยเลือดฝาด

ถั่ว
ผู้หญิงทุกคนอยากมีหุ่นสวยเพรียว ไม่มีไขมันส่วนเกินสะสม ถั่วช่วยคุณได้ค่ะถั่วเป็นอาหารที่อุดมไปด้วยโปรตีน เหล็ก วิตามินบี นอกจากนี้นักวิทยาศาสตร์ยังค้นพบว่าเมื่อคุณรับประทานอาหารที่มีไฟเบอร์ชนิดที่ละลายน้ำได้ (ซึ่งถั่วมีอยู่แล้วมากมาย)ไฟเบอร์จะเคลือบผิวกระเพาะทำให้รู้สึกอิ่มเร็วและอิ่ม-นานความอยากอาหารจะลดลง ซึ่งแน่นอนว่ามีประโยชน์กับคุณสุภาพสตรีที่ต้องการลดความอ้วนเป็นอย่างมาก

แอปเปิ้ล ผลไม้



แอปเปิ้ล
มีสารสำคัญ คือ เบต้าแคโรทีน วิตามินซีและเส้นใยไฟเบอร์ชนิดละลายน้ำ ที่ชื่อ เพคติน แต่ที่น่าสนใจสำคัญคุณผู้หญิงทั้งหลายคือ เจ้าตัวเพคตินนี้มีคุณสมบัติช่วยลดความอยากอาหาร ลดน้ำหนัก และลดโคเลสเตอรอล หากคุณหิวจนตาลาย แต่ยังไม่ถึงเวลาอาหารแอปเปิ้ลสักลูกจะช่วยลดความหิวได้ เพราะแอปเปิ้ลมีแป้ง และน้ำตาลในรูปของน้ำตาลโมเลกุลเดี่ยวถึง 75 %ทำให้ร่างกายสามารถดูดซึมน้ำตาลพิเศษชนิดนี้ได้รวดเร็วและนำไปใช้ประโยชน์ได้ ในเวลาไม่เกิน 10 นาที

บรอคโคลี่
เป็นพืชอีกชนิดหนึ่งที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคุณสุภาพสตรีทั้งหลาย เพราะบรอค-โคลี่เป็นแหล่งซีลีเนียมตามธรรมชาติซึ่งเจ้าตัว ซีลีเนียมนี้ที่ช่วยบำรุงผิวพรรณ (ซีลี-เนียมจะช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผิวหนัง จึงทำให้ผิวดูอ่อนวัยนุ่มนิ่ม มีน้ำมีนวลเหมือนหนุ่มสาว) แถมยังช่วยลบริ้วรอยเหี่ยวย่นอีกด้วย

กล้วยไข่
กล้วยทุกชนิด ดีต่อสุขภาพแต่กล้วยไข่ดีเป็นพิเศษ ในเรื่องของสารต้านอนุมูลอิสระที่เรารู้จักกันดี คือ เบต้าแคโรทีน โดยธรรมชาติ เมื่อเราอายุพ้นยี่สิบสองไปแล้วความเจริญเติบโตของร่างกายจะเริ่มหยุดชะงัก ความเสื่อมในส่วนต่างๆ ของร่างกายก็จะเริ่มมาเยือนอย่างช้าๆ

ฝรั่ง
ฝรั่ง 1 ขีดมีวิตามินซีสูงถึง180 มิลลิกรัม วิตามินซีมีบทบาทในการสร้างคอลลาเจนที่ทำให้ผิวพรรณบนใบหน้าของคุณเต่งตึงไม่แก่ก่อนวัยวิตามินซี เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งเจ้าตัวสารต้านอนุมูลอิสระนี้เองที่ทำให้คอลลาเจนและอีลาสตินเสื่อมสภาพผิวหนังแห้งเหี่ยว เกิดริ้วรอยตีนกาวิตามินซี มีความสำคัญต่อการสร้าง และบำรุงเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน(ConnectiveTissue) เซลล์นับล้านๆ ตัวเกาะเกี่ยวกันเป็นร่างกายได้ด้วยเนื้อเยื่อที่เรียกว่า คอลลาเจนมันคือคอลลาเจนตัวเดียวกันกับคอลลาเจนที่ทำให้ผิวพรรณบนใบหน้าของคุณผู้หญิงทั้งหลายเต่งตึงนั่นเอง และเพราะฝรั่งอุดมไปด้วยวิตามินซีนั่นเอง คุณๆทั้งหลายที่อยากคงความเป็นหนุ่มเป็นสาวให้แก่ผิวสวยไว้นานๆน่าจะลองหันมารับประทานฝรั่งเป็นประจำ

ส้ม แอปเปิ้ล ผลไม้
ส้ม
แหล่งวิตามิน เกลือแร่ และเส้นใยธรรม-ชาติ การรับประทานส้มโดยไม่คายกากจะช่วยคุมน้ำหนักได้อีกวิธีหนึ่ง เพราะจะทำให้รู้สึกอิ่มท้องเร็ว เป็นประโยชน์สำหรับคนที่ต้องการลดน้ำหนักได้อย่างดีทีเดียวค่ะ นอกจากนี้ หากรู้สึกหิวก่อนเวลา แทนที่จะนึกถึงเค้กก้อนโต หรือโดนัทชิ้นใหญ่ให้ลองหยิบส้มสักลูกเข้าปากแทนจะได้ประโยชน์มากกว่าในราคาที่ถูกกว่าด้วย

ผักและผลไม้ทั้ง 7 ชนิดที่กล่าวมาข้างต้นนั้นเป็นเพียงแนวทางเบื้องต้น สำหรับคุณๆ ผู้หญิงทุกท่านที่ต้องการรักษาสุขภาพ นอกจากผักผลไม้ทั้งเจ็ดนี้แล้วผักและผลไม้อื่นๆ ก็มีคุณประโยชน์ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันสถาบันโภชนาการแห่งชาติอเมริกาจึงได้แนะนำขนาด-ในการรับประทานผักผลไม้ในแต่ละวันว่า ควรจะรับประทานรวมกันให้ได้วันละครึ่งกิโล หรือ 5 ขีดจะช่วยให้คุณๆทั้งหลายมีสุขภาพแข็งแรง แจ่มใส ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บมารบกวน

วันพุธที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

ล่าสุด ดร.พรรณสิริ กุลนาถศิริ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข และ นพ.มานิต ธีระตันติกานนท์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า โรคติดต่อหลายโรค ที่มักพบบ่อยในฤดูหนาวมี 6 โรค ได้แก่...

โรคไข้หวัด และไข้หวัดใหญ่ อาการจะเริ่มด้วยการมีไข้สูง หนาวสั่น ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามกล้ามเนื้อ ไอ เมื่อเริ่มมีอาการควรนอนพักผ่อนให้มาก ๆ ดื่มน้ำบ่อย ๆ ถ้าตัวร้อนมากควรใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นเช็ดตัว หรือกินยาลดไข้ อาการจะค่อย ๆ ดีขึ้นภายใน 2-7 วัน แต่หากมีอาการไอมากขึ้น หรือมีไข้สูงนานเกิน 2 วัน ควรไปพบแพทย์

โรคปอดบวม จะมีอาการโดยทั่วไปได้แก่ ไอ เจ็บหน้าอก มีไข้สูง และหายใจหอบ การวินิจฉัยจะกระทำโดยการฉายรังสีเอกซ์และการตรวจเสมหะ ซึ่งหากมีความรุนแรง ต้องได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที เนื่องจากเป็นสาเหตุการเสียชีวิตมากที่สุดในเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี รวมทั้งเด็กที่มีน้ำหนักตัวน้อย เด็กขาดสารอาหาร เด็กที่มีความพิการแต่กำเนิด เช่น โรคหัวใจ เป็นต้น

โรคหัด มักเกิดในเด็กโตและวัยรุ่น อาการจะเริ่มจากมีไข้ น้ำมูกไหล ไอ ตาแดง และจะมีผื่นขึ้นภาย หลังมีไข้ประมาณ 4 วัน จากนั้น ผื่นจะกระจายทั่วตัว โดยผื่นจะจางหายไปภายใน 2 สัปดาห์ เด็กที่ป่วยเป็นหัด ให้แยกออกจากเด็กอื่น ๆ ประมาณ 1 สัปดาห์


อากาศหนาว


โรคหัดเยอรมัน เป็นได้ทั้งผู้ใหญ่ และเด็กเล็ก มีอาการไข้ ออกผื่นคล้ายโรคหัด บางรายอาจไม่มีผื่นขึ้น หากเป็นหัดเยอรมันระหว่างตั้งครรภ์ โดยเฉพาะในช่วง 3 เดือนแรก อาจทำให้ทารกในครรภ์พิการได้ ดังนั้น ควรพบแพทย์ และหยุดงาน หรือหยุดเรียนประมาณ 1 สัปดาห์

โรคอีสุกอีใส มักจะเกิดในเด็ก เมื่อเป็นโรคนี้แล้ว จะมีภูมิต้านทานโรคตลอดชีวิต อาการจะเริ่มด้วยไข้ต่ำ ๆ ต่อมา จะมีผื่นขึ้นที่หนังศีรษะ หน้า ตามตัว โดยเริ่มเป็นผื่นแดง ตุ่มนูน แล้วเปลี่ยนเป็นตุ่มพองใสหลังมีไข้ 2-3 วัน จากนั้น ตุ่มจะเป็นหนอง และแห้งตกสะเก็ดหลุดออกเองประมาณ 5-20 วัน เด็กนักเรียนที่ป่วยควรหยุดเรียนประมาณ 1 สัปดาห์ เด็กเล็กที่ป่วยควรตัดเล็บให้สั้น เพื่อป้องกันการอักเสบจากการเกาที่ผื่น

โรคอุจจาระร่วง ส่วนใหญ่เกิดจากเชื้อไวรัสที่มีชื่อว่า โรต้าไวรัส มักจะเกิดขึ้นกับเด็กอายุต่ำกว่า 2 ปี ติดต่อโดยการดื่มน้ำ หรือกินอาหารที่มีเชื้อไวรัสปนเปื้อนเข้าไป โดยเด็กจะถ่ายอุจจาระเป็นน้ำ หรือถ่ายเหลวบ่อยครั้ง โดยทั่วไปอาการไม่รุนแรง แต่เด็กบางคนอาจขาดน้ำรุนแรง หากมีเด็กในบ้านถ่ายเหลว ควรให้กินอาหารเหลวบ่อย ๆ เช่น น้ำข้าวต้ม น้ำแกงจืด ให้ดื่มนมแม่ สำหรับเด็กที่ดื่มนมผสม ควรผสมนมให้เจือจางลงครึ่งหนึ่งจนกว่าอาการจะดีขึ้น หากยังถ่ายบ่อยให้ผสมสารละลายน้ำตาลเกลือแร่ให้ดื่มบ่อย ๆ อาการจะกลับเป็นปกติได้ภายใน 8-12 ชั่วโมง หากอาการไม่ดีขึ้นต้องรีบพาไปพบแพทย์ทันที

ถ้าคุณทำเครื่องสำอางหกที่โต๊ะเครื่องแป้ง

บางครั้งคุณอาจจะปัดถูขวดเครื่องสำอางหกบนโต๊ะเครื่องแป้ง ซึ่งส่วนมากจะเป็นไม้ ต้องรีบเช็ดออกทันที อย่าปล่อยทิ้งไว้เพราะจะทำให้โต๊ะเป็นสีด่างหรือ ลอกได้ ทางที่ดีควรมีผ้าปูตะเครื่องแป้งซึ่งให้ทั้งความสวยงามและถอดออกมาซักได้อีกด้วย

ถ้าปากขวดเลอะครีมเพราะเทบ่อยให้เช็ดออกให้สะอาดทุกครั้งเพื่อป้องกันไม่ให้ยาเปลี่ยนสภาพ

เครื่องสำอางที่บรรจุในหลอด

ประเภทโฟมล้างหน้า หรือครีมบางชนิดที่บรรจุอยู่ในหลอดพลาสติก เวลาใกล้จะหมดจะบีบไม่ออก ควรตั้งไว้โดยเอาฝาลงจะทำให้บีบออกได้หมด

การใช้เครื่องสำอางชนิดแท่ง

เช่น ลิปสติกทาปาก เวลาทาไม่ควรหมุนออกมามากเกินไป เพราะอาจทำให้หักทันที ดังนั้นจึงควรหมุนออกมาประมาณ 1-1.5 ซม. หรือจะใช้พู่กันก็ได้ถ้าไม่มีทำโดยตรง ส่วนที่เหลือติดกันถ้าเสียดาย ให้ใช้พู่กันจะทำให้ได้ใช้ลิปสติกเต็มทั้งแท่งอย่างคุ้มค่า หรือควักออกมาใส่ตลับจะใช้ได้อีกนาน ควรเลือกใช้ของที่มีคุณภาพดีเพื่อป้องกันริมฝีปากไม่ให้ดำม่วงและแห้ง

สำหรับผู้ที่ต้องใส่แว่นตา

เนื่องจากกรอบแว่นตาส่วนใหญ่ทำจากพลาสติก หรือเงินชุบ หรือทองเค ทองเหลือง เป็นต้น เวลาใช้เคเรื่องสำอางประเภทโลชั่น ซึ่งมีแอลกอฮอล์เจือปนอยู่หรือสเปรย์ อาจทำให้ลอกหรือเปลี่ยนสีได้จึงควรระวัง หรือถ้าถูกให้รีบเช็ดทันที มิฉะนั้นอาจลอกและเปลี่ยนสีภายหลังได้

ต้องปิดฝาให้แน่นทุกครั้งหลังใช้

หลังจากที่เปิดขวดหรือกระปุกใช้แล้วทุกครั้ง อย่าลืมปิดฝาให้แน่น เพราะถ้าเปิดทิ้งไว้หรือปิดไม่แน่น อาจทำให้อากาศเข้าไปซึ่งในอากาศนั้นอาจมีเชื้อโรคบางชนิดปะปนกับฝุ่นละอองที่จะเข้าไปอยู่ในครีม โดยที่เราจะมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า ทำให้เปลี่ยนสภาพและกลิ่นได้ ทำให้กลิ่นที่หอมกลายเป็นกลิ่นเหม็นหื่นขึ้นมาได้ และถ้าเปลี่ยนสภาพก็จะทำให้คุณภาพของสินค้านั้นลดประสิทธิภาพลงได้ เกิดอาการแพ้ได้

เครื่องสำอางที่ไวไฟ

เครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ จำพวกน้ำหอม โลชั่นใส่ผม ยาล้างเล็บ หรือชนิดใช้ฉีด จะไวต่อไฟมากเวลาใช้จึงไม่ควรฉีดในที่ที่มีไฟ หรือใกล้เตา เป็นต้น

เมื่อเปิดแล้วควรใช้ให้หมด ต่อเนื่องกัน

เครื่องสำอางทุกชิ้น เมื่อเปิดออกใช้แล้วควรใช้ให้หมดไม่ควรใช้ครึ่งๆ กลางๆ ถ้าต้องการให้เครื่องสำอางที่ใช้เกิดผลตามที่ต้องการ เมื่อเปิดใช้แล้วก็ควรใช้ให้หมด นอกจากจะมีอาการแพ้ ไม่ควรใช้เพียง 2-3 ครั้ง แล้วทิ้งไว้โดยไม่ใช้ต่อเนื่อง อีกประการหนึ่ง ถ้าเปิดใช้แล้วทิ้งไว้ในที่ที่มีอุณหภูมิเย็นจัดหรือร้อนจัดโดยไม่สนใจเครื่องสำอางอาจเปลี่ยนสภาพไป อาจเกิดการแยกตัว เช่น น้ำมันลอยตัวขึ้นมาก็ได้ จึงควรใช้ให้หมดเมื่อได้เปิดออกแล้ว ปิดฝาให้แน่นหลังใช้ และอย่าเก็บไว้ในที่ที่มีอุณหภูมิร้อนจัดหรือเย็นจัด

ไม่ควรวางไว้ที่ที่เด็กเล็กหยิบถึง

เด็กเล็กทุกคนกำลังอยู่ในวัยที่อยากรู้อยากเห็น ฉะนั้นจะมีความสนใจในสิ่งของที่แปลกตา โดยจะเห็นเป็นของเล่นไปหมด และจะชอบมากที่จะเอามาละเลงเล่นไม่ว่าจะเป็นชนิดแป้งฝุ่น ครีม หรือโลชั่นน้ำนม เป็นต้น ถึงแม้ว่าจะไม่มีอันตรายถึงจะรับประทานเข้าไปก็ตาม แต่ถ้าเป็นแป้งหรือครีมเมื่อเข้าตาก็อาจทำให้ระคายเคืองและทำให้เด็กงอแงร้องไห้ อีกประการหนึ่ง เด็กอาจเอากระป๋องฉีดสเปรย์ที่มีส่วนผสมของแล็กเกอร์ไปเล่นและโยนเข้าไปในกองไฟหรือที่ที่มีความร้อนสูงซึ่งอาจเกิดระเบิดขึ้นก็ได้ ถึงจะไม่เกิดขึ้นบ่อยก็ตาม ก็ควรกันไว้ดีกว่าแก้

ในกรณีที่เด็กกินครีมบำรุงผิวหรือโลชั่นต่างๆ เข้าไป ไม่ต้องตกใจ ให้รีบดื่มน้ำ หรือนม หรือน้ำหวานที่จะไปปนให้เจือจางในท้องก็เป็นวิธีที่แก้ฉับพลันวิธีหนึ่ง เพราะส่วนใหญ่จะไม่มีอันตรายถึงชีวิตเพียงแต่ทำให้สะอิดสะเอียนเท่านั้น

พัฟที่ติดอยู่ในตลับแป้ง

พัฟที่อยู่ในตลับแป้งจะมีกระดาษแก้ว รองอยู่ เวลาเปิดใช้ไม่ควรทิ้งกระดาษแก้วแผ่นนั้น เพราะมีไว้สำหรับรองพัฟ เนื่องจากพัฟที่เราใช้ซับแป้งทาหน้า อาจมีน้ำมันปนอยู่หลังใช้ เมื่อสะสมมากถ้าวางไว้บนแป้งโดยไม่มีกระดาษแก้วรองรับ อาจทำให้น้ำมันและสิ่งสกปรกติดสะสมอยู่ในพัฟซึมเข้าไปในเนื้อแป้ง ทำให้เนื้อแป้งแข็งตัว หรือเปลี่ยนสี ทาไม่ออก จึงควรเอาพัฟไว้บนแผ่นกระดาษแก้วใสทุกครั้ง อย่าลืมเอาพัฟมาซัก ตากแดด เพื่อล้างคราบน้ำมัน สิ่งสกปรกที่เกาะติดอยู่กับพัฟออก เวลาทาจะได้มีแป้งที่แท้จริง ป้องกันไม่ให้เป็นสิวเสี้ยนอุดตันอีกด้วย

ระวังอย่าให้เข้าตา

เวลาสระผม นวดผม หรือเวลาใช้โลชั่นใส่ผมต่างๆ แมแต่อายไลเนอร์มาสคาร่า ถ้าไม่ระวังอาจเข้าตาได้ แต่ไม่ต้องตกใจ ให้รีบล้างด้วยน้ำสะอาด โดยเฉพาะถ้าเป็นยาย้อมผม หรือยากำจัดขน ถ้าเข้าตา โดยความประมาท เมื่อล้างน้ำยังไม่ออก หมดและระคายเคืองตา ควรรีบไปหาจักษุแพทย์รักษา ไม่ควรปล่อยไว้ เพราะดวงตาเป็นส่วนที่บอบบางมาก

ไม่ควรไว้ในที่ที่ถูกแสงแดดโดยตรง

ไม่ควรเอาเครื่องสำอางทุกชนิดตั้งไว้ในที่ที่แสงแดดส่องถึงโดยตรง เช่น ตั้งไว้บนโต๊ะเครื่องแป้งที่ติดหน้าต่างที่แสงแดดส่องถึงเพราะอาจทำให้เปลี่ยนสีและเปลี่ยนกลิ่นซึ่งผลสุดท้ายอาจเปลี่ยนสภาพก็ได้

วันอังคารที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

เพื่อนๆ เวลาอ่านหนังสือเรียน คงมีความรู้สึกเบื่อ ง่วง เร็วมากใช่มั้ยล่ะ
วันนี้เราจึงมีเคล็ดลับการอ่านหนังสือ เรียนให้ไม่เบื่อมาบอกไปลองทำดูนะ

  • เวลาอ่านหนังสือห้ามเปิดคอม เด็ดขาดจะทำให้ใจเราวอกแวกคิดแต่จะเล่น คอม
  • หากอ่านหนังสือแล้วเบื่อก็อย่าไปเปิดคอม ให้เปลี่ยนวิชา หรือเรื่องที่อ่านก่อน และสับวนไปมาเรื่อยๆ จะลดความเบื่อได้
  • นอนเยอะๆ เพื่อเวลาอ่านจะได้ไม่ง่วง
  • ห้ามคิดเกลียดวิชาหนึ่งๆ เด็ดขาดเพราะหากเกลียดแล้วย่อมเบื่อ ไม่อยากอ่านแน่
  • ก่อนสอบให้นอนเยอะๆ หัวจะได้แล่นวันสอบ ไม่ใช่ไปทุ่มเอาวันก่อนสอบอย่างเ้ดียว ต้องค่อยๆทยอยอ่าน

หวังว่าคงเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆนะครับ ใครมีเทคนิคการอ่านหนังสืออื่นๆ หรือบทความดีๆ อยากจะแบ่งปันก็เม้นได้ตามชอบเลย