วันพฤหัสบดีที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2552

ข้อมูลการท่องเที่ยว
ฝรั่งเศส (France) หรือชื่ออย่างเป็นทางการคือ สาธารณรัฐฝรั่งเศส (French Republic) (ฝรั่งเศส: République française ออกเสียง ) เป็นประเทศที่มีศูนย์กลางตั้งอยู่ในภูมิภาคยุโรปตะวันตก ทั้งยังประกอบไปด้วยเกาะและดินแดนอื่นๆ ในต่างทวีป ชาวฝรั่งเศสมักจะเรียกฝรั่งเศสแผ่นดินใหญ่ว่า "หกเหลี่ยม" (L'Hexagone) เนื่องจากลักษณะภูมิประเทศและอาณาเขตของประเทศฝรั่งเศส
ประเทศฝรั่งเศสมีพรมแดนติดกับประเทศเบลเยียม
ลักเซมเบิร์กเยอรมนีสวิตเซอร์แลนด์อิตาลีโมนาโกอันดอร์รา และสเปน และเนื่องจากประเทศฝรั่งเศสมีดินแดนโพ้นทะเลไว้ในครอบครอง ทำให้มีอาณาเขตติดกับประเทศบราซิลและซูรินาเม (ติดกับเฟรนช์เกียนา) และหมู่เกาะอินดีสเนเธอร์แลนด์ตะวันตก (ติดกับแซงต์-มาแตง) อีกด้วย นอกจากนั้นประเทศฝรั่งเศสยังเชื่อมกับสหราชอาณาจักรทางอุโมงค์ช่องแคบอังกฤษอีกด้วย
สาธารณรัฐฝรั่งเศสปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตย แบบสาธารณรัฐเดี่ยวกึ่งประธานาธิบดี โดยมีอุดมการณ์จากคำประกาศสิทธิมนุษยชนและพลเมือง ในคริสต์ศตวรรษที่ 18 และ 19 ฝรั่งเศสเป็นหนึ่งในประเทศจักรวรรดินิยมที่มีอาณานิคมในครอบครองมากที่สุดแห่งหนึ่งในโลก แผ่อาณาเขตบริเวณ
ทวีปแอฟริกาตะวันตกและเอเชียอาคเนย์ ซึ่งเห็นได้ชัดจากการมีอิทธิพลเหนือวัฒนธรรมและการเมืองการปกครองในอาณานิคมนั้นๆ ประเทศฝรั่งเศสเป็นประเทศที่พัฒนาแล้วและมีเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 6 ของโลก ประเทศฝรั่งเศสยังเป็นประเทศที่มีนักท่องเที่ยวมากที่สุดในโลกอีกด้วย โดยมีนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศกว่า 79 ล้านคนต่อปี (รวมทั้งนักท่องเที่ยวทางธุรกิจ แต่ไม่รวมนักท่องเที่ยวที่อยู่ภายในประเทศน้อยกว่า 24 ชั่วโมง) ประเทศฝรั่งเศสเป็นประเทศผู้ก่อตั้งสหภาพยุโรปและเป็นประเทศที่ใหญ่ที่สุดในสมาชิกสหภาพอีกด้วยฝรั่งเศสเองยังเป็นประเทศผู้ก่อตั้งสหประชาชาติ, ประชาคมผู้ใช้ภาษาฝรั่งเศสโลก, G8 และสหภาพละติน ประเทศฝรั่งเศสยังเป็นสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติและเป็นมหาอำนาจนิวเคลียร์อีกด้วย
ภูมิประเทศ
ประเทศฝรั่งเศสภาคพื้นทวีปยุโรปนั้นมีพื้นที่ 547,030 ตารางกิโลเมตร (211,209ตารางไมล์) ทำให้ประเทศฝรั่งเศสเป็นประเทศที่ใหญ่ที่สุดในกลุ่มสหภาพยุโรป ซึ่งใหญ่กว่าประเทศสเปนเพียงนิดเดียว ประเทศฝรั่งเศสมีพื้นที่ครอบคลุมลักษณะภูมิประเทศที่หลากหลายมาก ตั้งแต่ที่ราบชายฝั่งในภาคเหนือและตะวันตก ซึ่งติดกับทะเลเหนือและมหาสมุทรแอตแลนติก ไปจนถึงเทือกเขาแอลป์ทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ ที่ราบสูงมาสซิฟ ซองตราลทางภาคใต้ตอนกลางและเทือกเขาปีเรเนส์ทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ ประเทศฝรั่งเศสยังมีจุดที่สูงที่สุดในทวีปยุโรปตะวันตกคือ ยอดเขามงต์บล็องก์ หรือ มองต์ฺบลังก์ (Mont Blanc) ซึ่งสูง 4,807 เมตร (15,770 ฟุต) ตั้งอยู่บนเทือกเขาแอลป์ บริเวณชายแดนประเทศฝรั่งเศสและอิตาลี
สถานที่ท่องเที่ยวในฝรั่งเศส
หอไอเฟล (La Tour Eiffel) หอคอยโครงเหล็กที่มีความสูงอย่างโดดเด่นเป็นสง่าอยู่กลางกรุงปารีส ริมฝั่งแม่น้ำแซน เป็นสัญลักษณ์สำคัญประจำประเทศและนักท่องเที่ยวทุกคนจะต้องขึ้นไปชมวิวบนหอไอเฟลแห่งนี้จึงจะถือว่ามาถึงมหานครปารีส หอไอเฟลสร้างขึ้นเพื่อเป็นหอคอยประจำงานแสดงสินค้าและงานเฉลิมฉลองครบรอบ 100 ปี ของการปฏิวัติใหญ่ฝรั่งเศส เริ่มก่อสร้างในปี ค.ศ.1887โดยวิศวกรชื่อ กุสตาฟ ไอเฟลบนหอไอเฟลจะมีจุดชมวิว 3ระดับ แตละระดับที่ 2ซึ่งสูง 115 เมตรจะเป็นชั้นที่ดีที่สุด ทุก ๆ ชั้นจะมีร้านอาหาร ร้านของที่ละลึกและห้องน้ำไว้บริหารด้วย การขึ้นลงจะใช้ลิฟต์หรือบันไดก็ได้ ซึ่งมีขั้นบันไดเพียง 1,710 ปารีสและอิล-เดอ-ฟรองซ์ นครแห่งแสงสี สวรรค์ของคู่รัก ศูนย์กลางการออกแบบและแฟชั่นของโลก มหานครทันสมัยที่ไม่เคยหยุดนิ่ง ทั้งหมดนี้ซึ่งเป็นกระจกสะท้อนความเป็นฝรั่งเศสคือสมญานามเพียงส่วนเดียวของนครปารีสซึ่งยังมีคำจำกัดความอื่นๆ อีกมากมาย... คงจะเป็นไปไม่ได้เลยหากจะให้กล่าวถึงปารีสแต่เพียงสั้นๆ และก็คงเป็นเรื่องยากเช่นกันที่จะบรรยายความงามของนครนี้มิให้เกินจริงหรือด้อยค่าลง แค่เพียงกล่าวถึงสถานที่สำคัญต่างๆ ที่โดดเด่นเป็นหนึ่งเดียวในโลกดังเช่น หอไอเฟล ประตูชัย อนุสรณ์สถาน Panthéon หรือจะเป็นย่านชุมชนที่มีเสน่ห์อย่างม็งต์มาร์ต เลอ มาเร่ส์หรือแซ็งต์ แฌร์แมง เดส์ เปรส์... ก็คงจะเหนื่อยเสียแล้ว ทั้งนี้ยังไม่รวมถึงผับสไตล์ฝรั่งเศสหรือร้านอาหารนานาชาติจากทั่วทุกมุมโลก หรือพิพิธภัณฑ์ต่างๆ เช่น ลูฟร์ ออร์เซ่ย์ ศูนย์ศิลปะฌอร์ช ปอมปิดู สถาบันอาหรับศึกษา อีกทั้งพิพิธภัณฑ์ "เฉพาะกิจ" ที่น่าสนใจอีกหลายแห่งเช่น พิพิธภัณฑ์การโฆษณา พิพิธภัณฑ์แฟชั่น พิพิธภัณฑ์ศิลปะชาวบ้าน... นอกจากนี้ปารีสยังเป็นเมืองที่มีชีวิตชีวาไม่มีวันน่าเบื่อ จนสามารถเขียนถึงได้เป็นหนังสือเล่มใหญ่ทีเดียว ทุกซอกทุกมุมของปารีสมีสิ่งใหม่ๆ รอให้คนต่างถิ่นไปค้นพบและหลงเสน่ห์ได้เสมอ ไม่ว่าจะเป็นการนั่งรับลมเย็นๆ ชมพระอาทิตย์ลับฟ้าด้านหลัง Pont des Arts มองมาจากพิพิธภัณฑ์ลูฟส์ จิบไวน์ขาวในผับย่านเขต 18 ฟังเพลงแจ๊สยามราตรีที่ย่านนักศึกษา Quartier latin ถ้าคุณได้ไปเยือนปารีส คุณจะได้สัมผัสกับมนต์เสน่ห์ของนครแห่งนี้ที่พร้อมจะเป็น ปารีสของคุณแผงขายหนังสือเก่าบนกำแพงข้างถนนเลียบแม่น้ำแซน มีเสน่ห์ชวนให้เดินเลือกชมและเพิ่มบรรยากาศให้กับสถานที่สำคัญโดยรอบ ที่เห็นเป็นฉากหลังอยู่นี้คือ วิหารโนเตรอดามที่มีชื่อเสียงของปารีส หลากมุมมองของปารีสทิวทัศน์ของปารีสจากมุมกว้าง คุณสามารถเลือกชมได้จากหอไอเฟล ยอดตึก Montparnasse หอคอยของมหาวิหารโนเตรอดาม หรือบนยอดประตูชัย Arc de Triomphe ซึ่งคุณจะได้เห็นทัศนียภาพกว้างไกลของมหานครแห่งนี้ แต่หากคุณกลัวความสูงแล้วล่ะก็ ขอแนะนำให้ไปชมสถานที่แปลกตาใต้พื้นดินของปารีสเช่น ห้องโถงโบราณใต้มหาวิหารโนเตรอดาม ซึ่งใหญ่และน่าชมที่สุดของยุโรป หรืออาจจะย้อนอดีตไปชมระบบระบายน้ำโบราณที่พิพิธภัณฑ์ทางระบายน้ำของปารีสซึ่งยาวถึง 1,500 เมตรหรือไม่ก็ไปชมสุสานที่รวบรวมกระดูกมนุษย์ที่ Catacombes และถ้าคุณไม่ชอบบรรยากาศอับทึบใต้พื้นพิภพ คุณจะต้องชอบการล่องเรือชมเมือง หรืออาจจะเดินชมเมืองตามย่านที่มีสถานที่สำคัญโดยมีมัคคุเทศก์ท้องถิ่นนำชม หรือไม่ก็นั่งรถชมวิวรอบเมือง และถ้าอยากออกกำลังกายไปด้วยก็อาจเช่าจักรยานหรือใช้สเก็ตเที่ยวไปตามเส้นทางสำหรับนักท่องเที่ยว... ทุกสิ่งตามความสะดวกและตามใจคุณพิพิธภัณฑ์ลูฟร์ เป็นพิพิธภัณฑ์ที่สำคัญและยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก เป็นที่ตั้งแสดงศิลปวัตถุนับชิ้นไม่ถ้วน เดิมเป็นพระราชวังแต่ต่อมาเมื่อราชสำนักย้านไปที่แวร์ซายส์ก็ได้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์ไปประตูชัย(Arc de Triomphe) สุดถนนด้านหนึ่งของชองป์เซลิเซ่ คือที่ตั้งของประตูชัยสัญลักษณ์แห่งชัยชนะของนะโปเลียน หลังสงครามโลกครั้งที่ 1 ได้มีการนำศพทหารนิรนามมาฝังไว้และได้จุดไฟชั่วนิรันดร์ไว้เป็นที่เครื่องระลึกถึงวีรกรรมของทหารหาญที่ล่วงลับสถานที่สำคัญในอิลเดอฟรองซ์ - พระราชวังแวร์ซายส์ เป็นที่ประทับของกษัตริย์แห่งฝรั่งเศสจากสมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ถึงพระเจ้าหลุยส์ที่ 18 แต่ก็โด่งดังเหนือพระราชวังอื่นใด ห้องกระจก Hall of Mirrors นอกจากจะมีความงดงามเป็นที่หนึ่งแล้ว ยังมีความสำคัญในประวัติศาสตร์ด้วยการเป็นที่ลงนามยุติสงครามโลกครั้งที่สองในสนธิสัญญาแวร์ซายส์ระหว่างสัมพันธมิตรและฝ่ายอักษะ ห้องอื่นๆ ในแวร์ซายส์ล้วนมีความงดงามและอร่ามเรืองด้วยทองไม่แพ้กัน รวมไปถึงสวนที่ได้รับการจัดแต่งอย่างงดงาม และพระตำหนักตริอานองน้อยที่โปรดปรานของพระนางมารี อังตัวแนตต์ - ยูโรดิสนีย์ อยู่ห่างจากปารีสไปทางตะวันออกราว 32 กิโลเมตร เครื่องเล่นต่างๆ เหมือนกับดิสนีย์แลนด์ในสหรัฐอเมริกาและโตเกียว และมีโรงแรมอยู่ใกล้ๆให้พักค้างคืนสำหรับคนที่อยากใช้เวลาอยู่ๆ หลายๆวัน
ปฎิทินประจำปีของฝรั่งเศส
เดือน เมือง งาน
มกราคม โมนาโก แข่งรถ Monte-Carlo Motor Rally
กุมภาพันธ์ ปารีส Bric a brac Fair
ปลายกุมภาพันธ์ / นีช นีชคาร์นิวัลและงานสงครามดอกไม้
ต้นมีนาคม (Battle of Flowers)
มีนาคม ปารีส การแข่งขันรักบี้ 5 ชาติ
อาทิตย์สุดท้ายของมี.ค. ปารีส เทศกาลดอกไม้ Salon de Marsมีนาคม ปารีส เทศกาลหนังสือนานาชาติ
ต้นเมษายน ทั่วฝร่งเศส เทศกาลอีสเตอร์
พฤษภาคม โมนาโก การแข่งรถ International Grand Prix คานส์ เทศกาลภาพยนตร์
มิถุนายน ปารีส การแข่งขันเทนนิสเเฟรนซ์โอเพ่น
เทศกาลดนตรี มีพาเหรดและ Live band
มาเร่ส์ เทศกาลดนตรี เต้นรำ และการแสดงในโบสถ์
และสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์กรกฎาคม ปารีส แข่งขันจักยาน Le Tour de France
14กรกฎาคม ทั่วฝรั่งเศส ฉลองวันชาติ
สิงหาคม ทั่วฝรั่งเศส ฤดูกาลท่องเที่ยว/พักร้อน มีการแสดงแสงเสียง
ตามสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์
กันยายน แคว้นผลิตไวน์ ฉลองการเก็บเกี่ยวผลผลิตองุ่นตุลาคม
ปารีส ปารีสแจ๊สเฟสติวัล
พฤศจิกายน ดีชง เทศกาลอาหารและไวน์นานาชาติ
ปารีส วันที่ระลึกทหารผ่านศึก
ธันวาคม ทั่วฝรั่งเศส ฉลองเทศกาลคริสต์มาส
อาหารการกินของฝรั่งเศส
วัฒนธรรมในการรับประธานอาหารของชาวฝรั่งเศสหลายแบบได้แผ่อิทธิพลไปทั่วโลก เช่น การดื่มไวน์ หรือเครื่องดื่มเรียกน้ำย่อย ก่อนอาหารเบาจึงตามด้วยอาหารจานหลัก และผลไม้ ของหวาน หรือเนยแข็ง ส่วนรูปแบบการจัดอาหารบุฟเฟ่ต์ ที่นิยมกันทั่วไปนั้น คือ แบบอย่างของฝรั่งเศสอย่างแท้จริง มารยาทที่จะต้องรับทราบ คือ ทุกอย่างที่จัดไว้บนโต๊ะบุฟเฟต์ นั้น จะต้องรับประทานในห้องเท่านั้น ไม่ควรหยิบติดมือออกไปภายนอกห้องจัดเลี้ยงนอกจากจะได้รับอนุญาตจากเจ้าภาพเสียก่อน ชาวฝรั่งเศสคือต้นตำรับของขนมปัง เราจะต้องใช้มือจับก้อนขนมปังแล้วหักหรือบิด ไม่ใช้มีดตัดผ้าเช็ดมือที่โต๊ะอาหารไม่ควรทำเป็นผ้ากันเปื้อน เช่น การเสียบไว้ที่คอเสื้อ หรือเหน็บไว้ที่เข็มขัด การรินกาแฟจะต้องไม่ล้นถ้วย ช้อนกาแฟจะต้องวางไว้บนจานรอง เวลาจับถ้วยกาแฟจะต้องหยิบชุดทางด้านขวามือเสมอ ส่วนการดื่มไวน์จะต้องจับที่ก้านแก้ว คนฝรั่งเศสดื่มไวน์ปีละ 100 ลิตรต่อคน ถือเป็นชาติที่ดื่มไวน์มากที่สุดในโลก
ควร-ไม่ควในฝรั่งเศส (Do and Don't in France)
1.คุณสามารถกล่าวทักทายว่าบงชู (Bonjour)ซึ่งหมายถึงสวัสดีตอนเช้า หรือ บงซัว (Bonsoir)ที่หมายถึงสวัสดีตอนเย็น และกล่าวลาเมื่อจะจากไปด้วยคำว่า "โอ(เครอ)วัว(Au revoir)"ที่แปลว่า ลาก่อนและกล่าวขอบคุณว่า "แม็กซิ (Merci)
2. วิธีทักทายสำหรับคนที่รู้จักกันนั้นคือการแลกจูบแก้มซึ่งกันและกันไม่ว่าคู่ทักทายของคุณจะเป็นหญิงหรือชาย ตามงานพิธีต่างๆ ชาวฝรั่งเศสใช้วิธีชนแก้มกันทั้งสองข้าง ว่ากันว่าชาวปารีสนิยมแนบแก้มกันถึง 4 ครั้ง ถ้าเป็นเมืองนอกเขตปารีสทำเพียง 2 ครั้ง
3. เมื่อไปรับประทานอาหารตามภัตราคารอย่าตะโกนเรียกบริหรว่า"การ์ซ็อง(garcon)"ที่ตรงกันกับภาษาอังกฤษว่า boy ซึ่งในภาษาฝรั่งเศสถือว่าไม่สุภาพ ควรเรียกว่าเมอซิเออร์ และกล่าวคำว่า ซิล วู เปล ซึ่งแปลว่ากรุณา เวลาสั่งอาหารหรือขออะไรเพิ่มเติมจึงถือว่าสุภาพและควรถอดหมวก เสื้อคลุม โอเวอร์โค๊ดหรือแจ้กเก็ต เพื่อแสดงความเคารพต่อสถานที่ก่อนทุกครั้ง
4. สนามหญ้าในฝรั่งเศสมีไว้ให้ดูและชื่นชมความเขียวชอุ่ม ห้ามแตะต้องเด็ดขาด ยกเว้นตามสนามหญ้าที่เปิดเป็นสาธารณะ หากคุณละเมิดกฏเข้าไปในสนามหญ้าซึ่งมีป้าย pelouse interdite แปลว่า สนามหญ้าห้ามเข้า กำกับอยู่ ถือว่าคุณทำผิดกฏหมาย
5. เมื่อชาวฝรั่งเศสต้องการโบกมือลาเขาจะยกมือพร้อมกับขยับนิ้วขึ้นลง ๆ
6. รถแท็กซี่ในฝรั่งเศสนั่งได้ 3 คน เฉพาะที่ตรงด้านหลังคนขับเท่านั้นที่นั่งด้านขวามือข้างหน้าคู่กับคนขับนั้น มักไว้ให้เป็นที่นั่งของสัตว์เลี้ยงช้อปปิ้งฝรั่งเศส
การช้อปปิ้งในฝรั่งเศส
นั้นควรจะซื้อสินค้าที่ผลิตในประเทศจะเป็นการประหยัดกว่า อาทิ
น้ำหอม ยี่ห้อน้ำหอมขึ้นชื่อที่ฝรั่งเศสเป็นเจ้าของต้นตำรับได้แก่ Christian Dior,Givenchy,Rochas,Guerlain,Paco Rabanne ฯลฯ เป็นต้น
เครื่องสำอาง ที่มีชื่อเสียงในไทยหลายยี่ห้อล้วนผลิตในฝรั่งเศส เช่น Lancome,Orlane,Nina RicciYves Saint Laurent,Christian Dior ฯลฯกระเป๋าและเครื่องหนัง ที่มีชื่อเสียงสุดๆ Chanel และ Louis Vuitton อื่นๆได้แก่ Lancel และ Longchamp นอกจากนี้มีเครื่องหนังที่เป็นสินค้าของ Yves Saint Laurent,Nina Ricci,Gucci หรือกระเป๋าเดินทางของ Delsey ฯลฯ
ผ้าลูกไม้ฝรั่งเศส มีชื่อเสียงในด้านความสวยงาม ความละเอียดประณีตตลอดจนสีสันที่ดึงดูดใจสาวๆชาวต่างชาติเป็นอันมาก นอกจากนี้ราคายังคุ้มค่าพอที่จะให้ขนกลับนำไปเป็นของฝาก
เครืองดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ไวน์ (Vin)ไม่ว่าจะเป็นไวน์ขาวหรือไวน์แดงล้วนแล้วเป็นสินค้าขึ้นชื่อ ราคาของไวน์โดยเฉพาะที่มีขายอยู่ในซุปเปอร์มาร์เก็ต ร้านของชำ หรือร้านที่ขายไวน์โดยเฉพาะจะถูกมาก แชมเปญ (Champagne)แทบทุกเมืองในแคว้นแชมเปญมีชื่อเสียงในการผลิตแชมเปญมาก นักท่องเที่ยวที่ต้องการซื้อแชมเปญจากแหล่งผลิตโดยตรงสามารถเข้าไปซื้อได้
ของที่ระลึก มีอยู่ทั่วไปตามสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ราคาประมาณ 100 บาทขึ้นไป
ห้างสรรพสินค้า ใหญ่อยู่หลายเจ้า โดยเฉพาะแกลเลอรี่ลาฟาแยตต์ (Galeries Lafayette)และแพรงตองส์(Printemps)มีสาขาทั่วประเทศ มักเปิดวันจันทร์-เสาว์ ตั้งแต่เวลา 09.00-18.30 หรือ 19.30 น. ร้านเล็กๆอาจจะหยุดพักเที่ยงด้วย นอกจากนี้ซูเปอร์มาร์เก็ตใหญ่ๆ มักจะเปิดถึง 3 หรือ 4 ทุ่มช่วงเวลาที่ควรไปเยือน ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในฝรั่งเศส คือฤดูใบไม้ผลิ ถ้าจะไปเที่ยวตามชายทะเลของฝรั่งเศส ควรไปช่วงพฤษภาคม ซึ่งอากาศอบอุ่นแล้ว แต่นักท่องเที่ยวยังไม่มากนัก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น